ทำไมต้องทาสีใหม่?
- ผนังไม่สวยงามเนื่องจาก คุณภาพสี เช่น สีลอก ผนังสกปรกมีราดำ ตะไคร่น้ำ ผนังร้าวแตกลายงา
- สีหมดสภาพ ซีดจาง เนื่องจากสีหมดอายุการใช้งาน
- ต้องการเปลี่ยนสีใหม่ให้เหมาะกับสภาพภูมิทัศน์
- อาคารสร้างใหม่ เพื่อความสวยงาม ลดความร้อน ป้องกันความสกปรก กันน้ำซึม ยืดอายุของผนัง(ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสี)
การเลือกสี
สี มีผลต่อสภาพจิตใจ การเลือกสีตามอารมณ์อาจจะขัดกับความรู้สึกทั่วๆไป แต่หากเลือกสีตามโทนสีที่ทางจิตวิทยากำหนดไว้แล้วย่อมให้ผลที่เด่นชัด เช่น โทนสีห้องทำงาน ห้องนอน ห้องนั่งเล่น
ประเภทของสี สีด้าน และสีกึ่งมันเงา
อย่างไรก็ตาม.. หากเป็นสถานที่ส่วนตัว คุณมีสิทธิ์เลือกตอบสนองอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ แต่หากเพื่อทางการค้าควรพิจารณาให้ละเอียดยิ่งขึ้น
การเตรียมพื้นผิว
- ผนังปูนใหม่
ต้องทำความสะอาด คราบสกปกต่างๆ เศษซีเมนต์ และทิ้งผนังให้แห้งอย่างน้อย 30 วัน(หากต้องการทาสีเลยในเวลา 7วันแนะนำให้ใช้ซีเมนต์สี... ประหยัดไม่ต้องใช้สีรองพื้น)
ผนังปูนใหม่ หากต้องการให้ผนังเรียบเนียนควรแต่งด้วยสลิมโค้ท สมูทที่เป็นซีเมนต์เนื้อละเอียด ก่อนทาสี
- ผนังปูนเก่า
ขัดล้างสีเดิมที่หลุดร่อนและสิ่งสกปกที่ติดผนังออกให้หมด ล้างด้วยน้ำสะอาดปล่อยทิ้งให้แห้งสนิท จากนั้นทาด้วยน้ำยารองพื้นปูนเก่า และหากเป็นผนังที่ต้องโดนแดดโดนฝนควรจะทาน้ำยากันซึมก่อนทาสีเพื่อป้องกันกันไหลซึมของน้ำฝน ดูตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทากันซึม
ทำไมต้องทาน้ำยารองพื้นปูนเก่า?
แนะนำควรทาอย่างยิ่ง เพราะน้ำยารองพื้นปูนเก่า จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะได้ดีขึ้น และทำให้ประหยัดสี โดยเฉพาะทาสีโทนใหม่ที่จางกว่าโทนเก่าหากไม่ทาน้ำยารองพื้นปูนเก่าอาจต้องทาสีถึง3ครั้ง ทำให้สิ้นเปลืองทั้งค่าแรงและค่าสี และเสี่ยงต่อสีหลุดร่อนง่าย แต่ถ้าใช้คัลเลอร์ซีเมนต์ทาก็ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยารองพื้นปูนเก่า(ผนังที่จะทาต้องแข็งแรง)
กรณีผนังมีรอยแตกร้าว เป็นร่องใหญ่ควรอุดซ่อมรอยร้าวนั้นก่อน ปกติมักจะใช้เคมีโบ๊ว แต่เคมีโบ๊วใช้ได้เพียงแค่อุดไม่ได้มีคุณสมบัติเชื่อมประสานรอยร้าวให้ติดกันและเมื่อหมดอายุเคมีโบ๊วอาจหลุดร่อนและปูดออกมา การใช้ซีเมนต์เชื่อมรอยร้าวจะช่วยยึดเกาะรอยแตกร้าวให้ติดกันและลดการแตกลายงาที่จะเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย (อาจจะใช้ ปลั๊ก มอร์ต้า หรือ กันซึมที่ยืดหยุ่นได้ซ่อมผนัง)ถ้าเป็นเพียงรอยแตกลายงา สามารถทาสีทับได้เลย เพราะเนื้อสีจะปิดรอยแตกงานั้น(ขึ้นกับคุณภาพสีที่ใช้ทา)หากใช้คัลเลอร์ซีเมนต์ทา ให้ผสมผงคัลเลอร์ซีเมนต์แบบเข้มข้น ใช้ซ่อมปิดรอยแตกร้าว ปล่อยให้แห้งขัดให้ผิวเรียบ แล้วทาทับได้เลย
วิธีการทาสีและเครื่องมือสำหรับการทาสี
ในกรณีพื้นที่มากๆ ควรใช้ ลูกกลิ้งทาสี ซึ่งมีขนาด 4" 7" และ10" ส่วนแปรงทาสี สำหรับเก็บงาน เช่นมุมที่ลูกกลิ้งทาสีเข้าไม่ถึง หลังจากทาสีเสร็จแล้ว ควรล้างเครื่องมือทาสีให้สะอาด ปราศจากสีเกาะติด และก่อนที่จะนำมาใช้ใหม่ให้ตรวจเช็คขนแปรง หรือขนลูกกลิ้ง ว่า หลุดง่ายไหม หากหลุดง่ายก็ไม่ควรใช้ต่อ เปลี่ยนใหม่เลย หากใช้ต่อขนของลูกกลิ้งก็จะติดมากับสีบนผนังที่เราทา ไม่สวยแน่นอน ราคาลูกกลิ้งทั่วไปก็ประมาณ 65บาทสำหรับขนาด10"
การผสมสี
ให้ดูคู่มือของสีที่ติดมากับถังสี.. ที่จำเป็นที่สุดคือ ควรผสมแล้วทาให้เสร็จในครั้งเดียว ทั้งนี้เพราะ หากมีการมาทาทีหลังและผสม(เติมน้ำ)แล้วมีความเข้มจางไม่เท่ากับสีเดิม รอยด่างของสีก็จะปรากฏให้เห็น และอาจต้องทาใหม่ทั้งผนัง
ทาสีอย่างไรให้เลอะเทอะเปอะเปลื้อนน้อยที่สุด
ให้ทาอย่างระมัดระวัง อย่าให้สีที่ทาเลยกรอบที่กำหนด อาจจะใช้กระดาษกาวแปะเป็นกรอบไว้เพื่อป้องกันความผิดพลาด อย่าจุ่มสีให้มีปริมาณมากเกินไปเพราะสีจะหยดลงพื้น ทำให้พื้นเลอะเทอะ จึงควรใช้กระดาษแผ่นใหญ่ๆปูรองพื้นกันสีหยดใส่พื้นกระเบื้อง หากไม่ทำก็ควรทาอย่างระมัดระวังและเมื่อสีหยดลงพื้นให้รีบเช็ดออกทันทีด้วยผ้าเวลาทาเสร็จจะได้เก็บงานน้อยลง การทาสี ทำให้จิตมีสมาธิมากขึ้น ลดความฟุ้งซ่านได้ด้วยครับ ลองดูครับไม่ยาก